สัตว์

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

สัตว์


สัตว์ เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด จัดอยู่ใน อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia) เป็นสิ่งมีชีวิตพวกที่นิวเคลียส มีผนังห่อหุ้ม ประกอบด้วยหลายเซลล์มีการแบ่งหน้าที่ของแต่ละ เซลล์เพื่อทำหน้าที่เฉพาะอย่างแบบถาวร ไม่มีคลอโรฟิลล์ สร้างอาหารเองไม่ได้ ดำรงชีวิตได้หลายลักษณะทั้งบนบกในน้ำ และบางชนิดเป็นปรสิต อาณาจักรนี้ได้แก่สัตว์ทุกชนิด ตั้งแต่สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจนถึงสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ได้แก่ พยาธิใบไม้ กบ ลิง กระต่าย ดาวทะเล แมงดาทะเล พลานาเรีย หอยสองฝา แมลงสาบ ในทางชีววิทยา มนุษย์ ก็จัดอยู่ในอาณาจักรสัตว์ โดยคำว่าสัตว์ กลายความหมายมาจากคำว่า "สตฺตฺว" ในภาษาสันสกฤตซึ่งแปลว่าสิ่งมีชีวิตประเภทของสัตว์ สัตว์ในโลกนี้มีมากมาย หลายชนิด นักวิทยาศาสตร์ได้จัดแบ่งสัตว์เป็นกลุ่ม โดยถือรูปร่างลักษณะที่เหมือนกัน หรือต่างกันเป็นสำคัญ อริสโตเติล นักวิทยาศาสตร์ชาวกรีก ใช้กระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสัตว์ได้เป็น 2 พวก คือ

* สัตว์มีกระดูกสันหลัง

*สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง แบ่งประเภทของสัตว์ตามธรรมชาติถ้าจำแนกตามลักษณะ ที่อยู่ของสัตว์แล้วก็สามารถแบ่งได้ดังนี้

* สัตว์บก จะอาศัยอยู่บนบก เช่น นก หนู ฯลฯ

* สัตว์น้ำ จะอาศัยอยู่ในน้ำเช่น ปลา กุ้ง เป็นต้น

* สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สามารถอาศัยอยู่ในน้ำเมื่อแรกเกิด แต่เมื่อโตเต็มวัยรูปร่างจะเปลี่ยนแปลงไปสามารถอาศัยบนบกได้ เช่น กบ เป็นต้น

งูเห่า เป็นงูบกขนาดกลาง มีหลายสี คือ ดำ น้ำตาล เขียวอมเทา เหลืองหม่น รวมทั้งสีขาว มีทั้งที่มีลายตามตัว และไม่มีลายเลย เป็นงูที่มีอันตราย นิสัยดุ ฉกกัด เมื่อเกิดอาการตกใจมักทำเสียงขู่ฟู่ๆ และเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง มีร่องและรูทางออกของน้ำพิษทางด้านหลังของเขี้ยวพิษ เขี้ยวพิษขนาดไม่ใหญ่นักซึ่งผนึกติดแน่นกับขากรรไกรขยับไม่ได้ นอกจากเขี้ยวพิษแล้วอาจมีเขี้ยวสำรองอยู่ติด ๆ กันอีก 1 - 2 อัน ที่ขากรรไกรล่างไม่มีฟัน งูเห่าเมื่อโตเต็มวัย มีความยาวประมาณ 120-150 เซนติเมตร เมื่อเทียบตามส่วนแล้วงูเห่าสามารถแผ่แม่เบี้ยได้กว้างที่สุดกว่าชนิดอื่น ยกตัวชูคอแผ่แม่เบี้ยได้สูงที่สุดประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวลำตัว เกล็ดบนหัวมีขนาดใหญ่

ถิ่นอาศัย, อาหาร

พบในบริเวณที่มีลักษณะภูมิประเทศที่ยังคงเป็นธรรมชาติ เช่น ประเทศแถบเอเชีย

อาหารส่วนใหญ่ของงูเห่าคือ คางคก เขียด หนู ไก่ ปลา และงูที่มีขนาดเล็กกว่า

พฤติกรรม, การสืบพันธุ์

ชอบอยู่ตามท้องทุ่งหรือท้องนา อาศัยพักนอนในโพรงดิน เลาโกรธหรือตกใจจะชูคอแผ่แม่เบี้ยขู่ฟ่อ เมื่อเข้าใกล้จะฉกลงกัด งูเห่าสามารถกัดได้โดยไม่ต้องแผ่แม่เบี้ยถ้าตกใจหรือโดนเหยียบ ออกหากินตั้งแต่พลบค่ำจนถึงกลางคืสตอนดึก ในฤดูร้อนงุเห่ามักจะหลบอยู่ในโพรงดินหรือรูหนู เพื่อคอยดักจับหนูที่จะกลับเข้ามา ในฤดูฝนจะออกหากินตามท้องนาคอยดักจับกบ เขียด ซึ่งออกมากินแมลง เมื่อข้าวออกรวงจะคอยดักจับหนูที่มากินรวงข้าว ถ้าน้ำท่วมท้องนา งูเห่าจะหนีไปตามที่ดอนไปขึ้นต้นไม้ หรือเข้าไปอยู่ใกล้ๆบ้านคน สำหรับในฤดูหนาวงูเห่าจะหลบอยู่ตามรู ไม่ค่อยออกมาหากิน

งูเห่าวางไข่ครั้งละประมาณ 10-20 ฟอง ไข่มีลักษณะยาวรี เปลือกไข่เหนียวนิ่มและมีสีขาว เมื่อไข่ถูกฟักออกมาเป็นตัว ลูกงูจะมีลักษณะสีลวดลายคล้ายตัวโตเต็มวัย

0 ความคิดเห็น: